ไรซ์เจิร์ม พลัส( Rice Germ Plus) 
สั่งซื้อผลิตภัณฑ์
สั่งซื้อผลิตภัณฑ์
ไรซ์เจิร์ม พลัส( Rice Germ Plus) คือผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ที่ประกอบด้วย “ข้าวยีสต์แดง” เกิดจากการหมักข้าวสารไทยด้วยเชื้อ Monascus Purpureus อุดมด้วยสาร “โมนาคอลินส์” ที่มีคุณสมบัติในการลดระดับไขมัน LDL,โคเลสเตอรอล,ไตรกลีเซอร์ไรด์ โดยปราศจากอาการข้างเคียงเหมือนกับการกินยา จึงช่วยลดการอุดตันของหลอดเลือด ป้องกันโรคกล้ามเนื้อหัวใจตาย นอกจากนี้ยังมี “เบต้า กลูแคน” ที่ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย ต่อต้านอนุมูลอิสระ ชะลอความชรา ป้องกันมะเร็ง และยังมี “ถั่งเช่า” สายพันธุ์ Hersutella sinensis แห่งเดียวในเมืองไทยที่ได้รับการรับรองเทียบเท่า “ ถั่งเช่าทิเบต” มีคุณสมบัติช่วยเพิ่มสมรรถภาพการทำงานของร่างกายทุกระบบ มีฤทธิ์บำรุงตับ ไต ทำให้ร่างกายมีพลัง แข็งแรง ไม่อ่อนเพลียเหนื่อยง่าย เพิ่มความกระชุ่มกระชวยได้ตลอดวัน
ลดโคเลสเตอรอลด้วยสารอาหารจากธรรมชาติแทนการใช้ยา
โรคหลอดเลือดหัวใจและสมอง ได้กลายมาเป็น เพชฌฆาตที่คร่าชีวิตมนุษย์เป็นอันดับต้นๆ ของโรคทั้งหมดในปัจจุบัน สาเหตุเกิด มาจากระดับโคเลสเตอรอลที่สูงในร่างกายไปจับที่ผนังหลอดเลือดจนพอกหนาเป็นตะกรันไขมัน(Plague) การสะสมของตะกรันไขมันทำให้หลอดเลือดค่อยๆ ตีบลง ตะกรันไขมันนี้สามารถขวางกั้นระบบการไหลเวียนเลือดในหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงหัวใจ หรือสมองทำให้อวัยวะขาดเลือด เกิดกล้ามเนื้อหัวใจวาย หรือหลอดเลือดในสมองตีบ เป็นอัมพฤกษ์ อัมพาตได้
แพทย์มักจะให้รับประทานยาในกลุ่ม Statins อยู่เป็นประจำ แม้ว่าผู้ป่วยที่ใช้ยาสตาตินนั้นจะมีความเสี่ยงต่อการทำงานผิดปกติของตับ เกิดไตวายเฉียบพลัน และเป็นต้อหินได้ ซึ่งไม่เหมาะแก่การรับประทานในระยะยาว แต่ก็ยังคงเป็นความจำเป็นทางการแพทย์ที่จะต้องรับประทานไปตลอดเพื่อรักษาโรค ดังนั้นจึงเกิดความพยายามในการหาสารทดแทนยา Statins จนนำไปสู่การค้นพบ สารสังเคราะห์สตาติน ที่ชื่อว่า “ โมนาคอลินส์ ”(Monacolins)
สาร โมนาคอลินส์ พบได้ใน “ ข้าวยีสต์แดง ”(Red Yeast Rice) ซึ่งเป็นยาสมุนไพรจีนโบราณที่ใช้กันมานานกว่าพันปี ในการเก็บถนอม และเป็นสีผสมอาหาร เช่น เต้าหู้ยี้ หมูแดง ซอสเย็นตาโฟ ไวน์แดง แต่ปัจจุบัน”ข้าวยีสต์แดง” ได้มีการพัฒนาโดยนักวิทยาศาสตร์ของ จีน , ไต้หวัน และสหรัฐอเมริกา พบว่าสารโมนาคอลินส์ที่มีคุณภาพดีที่สุด ได้จากการหมักด้วยเชื้อยีสต์ราโมแนสคัส (Monascus Purpureus) ซึ่งเป็นสารที่ได้จากธรรมชาตินั้น มีคุณสมบัติเหมือนกับยาลดไขมัน กลุ่ม สตาติน โดยออกฤทธิ์ในการยับยั้งไม่ให้เอนไซม์ HMG-CoA reductase ทำงานสังเคราะห์โคเลสเตอรอลในตับได้ จึงมีผลให้ระดับโคเลสเตอรอลในเลือดลดลง โดยปราศจากผลข้างเคียงเหมือนกับยา อันได้แก่ กล้ามเนื้ออ่อนแรง เวียนศรีษะ และปวดบริเวณหน้าอกฯลฯ
ในการผลิต “ข้าวยีสต์แดง”นั้น จำเป็นอย่างยิ่งต้องอาศัยความรู้ ความเชี่ยวชาญ และพิถีพิถัน ระหว่างการผลิตค่อนข้างสูง เพราะหากสายพันธุ์และวิธีหมักไม่ถูกต้อง จะมีสาร “ซีตรินิน”(Citrinin) เกิดขึ้นระหว่างกระบวนการผลิต ซึ่งเป็นสารที่มีโทษต่อร่างกาย ด้วยเหตุนี้ในไต้หวันจึงมีข้อบังคับว่า “ในยีสต์แดงต้องมีสารซีตรินินไม่เกิน 5 ppm” บริษัท โฟร์เวกเตอร์ ไบโอเทค จำกัด ได้ทำการผลิตและพัฒนาสายพันธุ์จนได้เชื้อยีสต์ราโมแนสคัส ที่ให้สารโมนาคอลินส์ในปริมาณที่สูงมาก และพบว่ามีสารซีตรินินเพียง 0.3ppm เท่านั้นซึ่งต่ำกว่าข้อบังคับถึง 16 เท่า ด้วยเหตุนี้ “สถาบันวิจัยและพัฒนาอุตสาหกรรมอาหารแห่งสาธารณรัฐไต้หวัน “ จึงได้ออกเอกสารรับรองในคุณภาพและความปลอดภัย ให้กับ “ไรซ์เจิร์ม พลัส”( Rice Germ Plus) ข้าวยีสต์แดง ของ บริษัท โฟร์เวกเตอร์ ไบโอเทค จำกัด เมื่อ 4 ตุลาคม 2550
ประโยชน์จากเชื้อยีสต์ราโมแนสคัส สายพันธุ์ที่คัดสรรพิเศษ..สู่ “ข้าวยีสต์แดง”เพื่อคุณ
1. มีสาร “โมนาคอลินส์”ซึ่งเป็นสารลดโคเลสเตอรอลธรรมชาติ ในปริมาณที่สูงมาก จึงช่วยลดโคเลสเตอรอลชนิด LDL และไตรกลีเซอร์ไรด์
ในหลอดเลือดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยป้องกันหลอดเลือดสมองอุดตัน ,โรคกล้ามเนื้อหัวใจตาย
2. มีสาร”GABA”(Gamma-Aminobutylic acid)ในปริมาณที่สูง ซึ่งมีบทบาทสำคัญโดยทำหน้าที่เป็นสารสื่อประสาท ในระบบประสาท
ส่วนกลางจึง ช่วยป้องกัน โรคสมองเสื่อม โรคพาร์กินสัน และยังช่วยทำให้สมองเกิดการผ่อนคลาย ช่วยให้นอนหลับสบายด้วย
3. มีสาร”ไคติน”จากเชื้อราช่วยให้ร่างกายสังเคราะห์โปรตีนคอลลาเจน ที่ช่วยเสริมสร้างและปกป้องข้อต่อ ลดการเสื่อมของไข
ข้อในผู้สูงอายุ นอกจากนี้ยังช่วยสมานแผลให้หายเร็วขึ้น ลดรอยแผลเป็น คืนความนุ่มเนียน ยืดหยุ่นให้กับผิวหนัง และเส้นผมที่แห้งเสีย
4. มีสาร”ไคโตซาน” ช่วยดักจับไขมันในระบบทางเดินอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อรับประทานของมันๆ จะสังเกตได้ว่า เวลาถ่าย
จะมีคราบไขมันปนออกมาด้วย
5. มี”กรดอะมิโน”ซึ่งเป็นหน่วยโปรตีนที่เล็กที่สุดถึง 18 ชนิด มีบทบาทสำคัญในการเจริญเติบโต ซ่อมแซมเนื้อเยื่อส่วนที่สึกหรอของร่างกาย
เสริมสร้างภูมิต้านทาน ต่อต้านเชื้อแบคทีเรีย และเป็นแหล่งพลังงานสำรองให้กับร่างกาย
6. ช่วยให้ระบบการไหลเวียนของเลือดในร่างกายดีขึ้น ช่วยบรรเทาอาการย่อยอาหารที่ผิดปกติ
7. มี”สารต้านอนุมูลอิสระ”ในปริมาณที่สูงมาก ช่วยปกป้องเซลล์ของร่างกายจากสารอนุมูลอิสระ ช่วยต้านความอ่อนเพลีย ขจัดสารพิษ
ของเสียออกจากร่างกาย นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติทางด้าน “Anti-mutagenic” ที่ช่วยป้องกัน การเกิดกลายพันธุ์ของเซลล์ที่จะ ไปเป็นเนื้องอก
หรือมะเร็ง ในอนาคต
ลดโคเลสเตอรอลด้วยสารอาหารจากธรรมชาติแทนการใช้ยา
โรคหลอดเลือดหัวใจและสมอง ได้กลายมาเป็น เพชฌฆาตที่คร่าชีวิตมนุษย์เป็นอันดับต้นๆ ของโรคทั้งหมดในปัจจุบัน สาเหตุเกิด มาจากระดับโคเลสเตอรอลที่สูงในร่างกายไปจับที่ผนังหลอดเลือดจนพอกหนาเป็นตะกรันไขมัน(Plague) การสะสมของตะกรันไขมันทำให้หลอดเลือดค่อยๆ ตีบลง ตะกรันไขมันนี้สามารถขวางกั้นระบบการไหลเวียนเลือดในหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงหัวใจ หรือสมองทำให้อวัยวะขาดเลือด เกิดกล้ามเนื้อหัวใจวาย หรือหลอดเลือดในสมองตีบ เป็นอัมพฤกษ์ อัมพาตได้
แพทย์มักจะให้รับประทานยาในกลุ่ม Statins อยู่เป็นประจำ แม้ว่าผู้ป่วยที่ใช้ยาสตาตินนั้นจะมีความเสี่ยงต่อการทำงานผิดปกติของตับ เกิดไตวายเฉียบพลัน และเป็นต้อหินได้ ซึ่งไม่เหมาะแก่การรับประทานในระยะยาว แต่ก็ยังคงเป็นความจำเป็นทางการแพทย์ที่จะต้องรับประทานไปตลอดเพื่อรักษาโรค ดังนั้นจึงเกิดความพยายามในการหาสารทดแทนยา Statins จนนำไปสู่การค้นพบ สารสังเคราะห์สตาติน ที่ชื่อว่า “ โมนาคอลินส์ ”(Monacolins)
สาร โมนาคอลินส์ พบได้ใน “ ข้าวยีสต์แดง ”(Red Yeast Rice) ซึ่งเป็นยาสมุนไพรจีนโบราณที่ใช้กันมานานกว่าพันปี ในการเก็บถนอม และเป็นสีผสมอาหาร เช่น เต้าหู้ยี้ หมูแดง ซอสเย็นตาโฟ ไวน์แดง แต่ปัจจุบัน”ข้าวยีสต์แดง” ได้มีการพัฒนาโดยนักวิทยาศาสตร์ของ จีน , ไต้หวัน และสหรัฐอเมริกา พบว่าสารโมนาคอลินส์ที่มีคุณภาพดีที่สุด ได้จากการหมักด้วยเชื้อยีสต์ราโมแนสคัส (Monascus Purpureus) ซึ่งเป็นสารที่ได้จากธรรมชาตินั้น มีคุณสมบัติเหมือนกับยาลดไขมัน กลุ่ม สตาติน โดยออกฤทธิ์ในการยับยั้งไม่ให้เอนไซม์ HMG-CoA reductase ทำงานสังเคราะห์โคเลสเตอรอลในตับได้ จึงมีผลให้ระดับโคเลสเตอรอลในเลือดลดลง โดยปราศจากผลข้างเคียงเหมือนกับยา อันได้แก่ กล้ามเนื้ออ่อนแรง เวียนศรีษะ และปวดบริเวณหน้าอกฯลฯ
ในการผลิต “ข้าวยีสต์แดง”นั้น จำเป็นอย่างยิ่งต้องอาศัยความรู้ ความเชี่ยวชาญ และพิถีพิถัน ระหว่างการผลิตค่อนข้างสูง เพราะหากสายพันธุ์และวิธีหมักไม่ถูกต้อง จะมีสาร “ซีตรินิน”(Citrinin) เกิดขึ้นระหว่างกระบวนการผลิต ซึ่งเป็นสารที่มีโทษต่อร่างกาย ด้วยเหตุนี้ในไต้หวันจึงมีข้อบังคับว่า “ในยีสต์แดงต้องมีสารซีตรินินไม่เกิน 5 ppm” บริษัท โฟร์เวกเตอร์ ไบโอเทค จำกัด ได้ทำการผลิตและพัฒนาสายพันธุ์จนได้เชื้อยีสต์ราโมแนสคัส ที่ให้สารโมนาคอลินส์ในปริมาณที่สูงมาก และพบว่ามีสารซีตรินินเพียง 0.3ppm เท่านั้นซึ่งต่ำกว่าข้อบังคับถึง 16 เท่า ด้วยเหตุนี้ “สถาบันวิจัยและพัฒนาอุตสาหกรรมอาหารแห่งสาธารณรัฐไต้หวัน “ จึงได้ออกเอกสารรับรองในคุณภาพและความปลอดภัย ให้กับ “ไรซ์เจิร์ม พลัส”( Rice Germ Plus) ข้าวยีสต์แดง ของ บริษัท โฟร์เวกเตอร์ ไบโอเทค จำกัด เมื่อ 4 ตุลาคม 2550
ประโยชน์จากเชื้อยีสต์ราโมแนสคัส สายพันธุ์ที่คัดสรรพิเศษ..สู่ “ข้าวยีสต์แดง”เพื่อคุณ
1. มีสาร “โมนาคอลินส์”ซึ่งเป็นสารลดโคเลสเตอรอลธรรมชาติ ในปริมาณที่สูงมาก จึงช่วยลดโคเลสเตอรอลชนิด LDL และไตรกลีเซอร์ไรด์
ในหลอดเลือดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยป้องกันหลอดเลือดสมองอุดตัน ,โรคกล้ามเนื้อหัวใจตาย
2. มีสาร”GABA”(Gamma-Aminobutylic acid)ในปริมาณที่สูง ซึ่งมีบทบาทสำคัญโดยทำหน้าที่เป็นสารสื่อประสาท ในระบบประสาท
ส่วนกลางจึง ช่วยป้องกัน โรคสมองเสื่อม โรคพาร์กินสัน และยังช่วยทำให้สมองเกิดการผ่อนคลาย ช่วยให้นอนหลับสบายด้วย
3. มีสาร”ไคติน”จากเชื้อราช่วยให้ร่างกายสังเคราะห์โปรตีนคอลลาเจน ที่ช่วยเสริมสร้างและปกป้องข้อต่อ ลดการเสื่อมของไข
ข้อในผู้สูงอายุ นอกจากนี้ยังช่วยสมานแผลให้หายเร็วขึ้น ลดรอยแผลเป็น คืนความนุ่มเนียน ยืดหยุ่นให้กับผิวหนัง และเส้นผมที่แห้งเสีย
4. มีสาร”ไคโตซาน” ช่วยดักจับไขมันในระบบทางเดินอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อรับประทานของมันๆ จะสังเกตได้ว่า เวลาถ่าย
จะมีคราบไขมันปนออกมาด้วย
5. มี”กรดอะมิโน”ซึ่งเป็นหน่วยโปรตีนที่เล็กที่สุดถึง 18 ชนิด มีบทบาทสำคัญในการเจริญเติบโต ซ่อมแซมเนื้อเยื่อส่วนที่สึกหรอของร่างกาย
เสริมสร้างภูมิต้านทาน ต่อต้านเชื้อแบคทีเรีย และเป็นแหล่งพลังงานสำรองให้กับร่างกาย
6. ช่วยให้ระบบการไหลเวียนของเลือดในร่างกายดีขึ้น ช่วยบรรเทาอาการย่อยอาหารที่ผิดปกติ
7. มี”สารต้านอนุมูลอิสระ”ในปริมาณที่สูงมาก ช่วยปกป้องเซลล์ของร่างกายจากสารอนุมูลอิสระ ช่วยต้านความอ่อนเพลีย ขจัดสารพิษ
ของเสียออกจากร่างกาย นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติทางด้าน “Anti-mutagenic” ที่ช่วยป้องกัน การเกิดกลายพันธุ์ของเซลล์ที่จะ ไปเป็นเนื้องอก
หรือมะเร็ง ในอนาคต
